หากว่าคุณ Login เข้าไปใช้งาน Google Tag Manager ตอนนี้ คุณจะเห็นแถบด้านบนบอกว่า "GA4 Configuration Tag จะเปลี่ยนเป็น Google Tag แทน…"
Table of Contents
รูปแบบการทำงานของ Google Tag ผ่านทาง Google Tag Manager
จากรูปจะเห็นได้ว่า เมื่อคุณทำการติดตั้ง Google Tag Manager (GTM-XXXXXX) เอาไว้ที่ทุกหน้าของเว็บไซต์แล้ว คุณก็สามารถที่จะทำการติดตั้ง Google Tag ผ่านทาง GTM ได้เลย โดยไม่จำเป็นต้องเข้าไปแก้ไขหน้าเว็บไซต์ให้เสียเวลาอีก
นอกจากนี้คุณยังสามารถที่จะทำการวัดผลพวก ‘Events เชิงลึก‘ ต่างๆ ผ่านทาง GTM ได้ โดยไม่ต้องแก้ไข Source Code ของเว็บไซต์ด้วยเช่นกัน
นับว่าเป็นข้อดีหลักๆ ของการนำ GTM มาใช้ช่วยเก็บ Data ต่างๆ ที่เกิดขึ้น แล้วส่งกลับไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น Google Ads, Google Analytics 4 รวมถึงแพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Facebook Ads, TikTok Ads, LINE Ads ฯลฯ
หากว่าคุณสนใจเรื่องของการนำ GTM มาใช้วัดผลเพิ่มเติม คลิกที่ลิงค์นี้ได้เลยครับ
จาก 'Google Analytics: GA4 Configuration' สู่ 'Google Tag'
มีลูกค้าที่ใช้งาน GTM อยู่ถามผมว่า “เมื่อ Google เปลี่ยนอะไรตรงนี้แล้ว ทางผมต้องเข้าไปแก้ไขอะไรด้วยหรือเปล่า?”
คำตอบก็คือ “ไม่ต้องครับ”
อย่างพวกค่าต่างๆ ที่เคยตั้งเอาไว้ใน ‘Google Analytics: GA4 Configuration‘ Tag ตัวเก่า ระบบก็จะทำการย้ายให้ไปอยู่ในส่วนของการตั้งค่าต่างๆ ที่ ‘Google Tag‘ ให้โดยอัตโนมัติ โดยที่คุณไม่ต้องกลัวว่า Data ต่างๆ ที่เคยส่งไปที่ GA จะมีปัญหา
แต่ผมแนะนำให้คุณเข้าไปเช็ค และก็ลองปรับเปลี่ยนบางจุดดูครับ เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์ของ Google Tag ตัวใหม่นี้ได้เต็มที่ และก็ตั้งค่าต่างๆ ตามคำแนะนำ (Best Practices) โดยเฉพาะในส่วนของตัวแปรใหม่ 2 ตัวที่ผมจะแนะนำให้คุณรู้จักต่อไปนี้
ตัวแปรใหม่ 2 ตัวที่มาพร้อมกับ Google Tag
1. Google Tag: Configuration Settings
ซึ่งจะเป็นพวกตัวแปร (Parameters) ที่อยู่ในส่วนของการตั้งค่าต่างๆ ที่คุณสามารถนำมาใช้ซ้ำได้
ตัวอย่างของ Parameters ก็จะมีเช่น allow_google_signals, user_id, send_page_view, server_container_url ฯลฯ
2. Google Tag: Event Settings
จะเป็น Parameters ที่เกี่ยวกับ Events ช่วยให้คุณไม่ต้องสร้าง Parameters ขึ้นมาใหม่ทุกครั้งเมื่อมีการสร้าง GA4 Event Tags
ตัวอย่างของ Parameters นี้ก็จะมี content_group, currency, items ฯลฯ
อ้อ คุณสามารถเพิ่ม Parameters ในส่วนของ User Properties ได้ในตัวแปร Google Tag: Event Settings นี้
วิธีการตั้งค่า Google Tag ใน GTM เบื้องต้น
หากว่าตอนนี้คุณใช้ GTM อยู่ ผมแนะนำให้คุณทำการย้ายพวก Parameters ต่างๆ ที่อยู่ใน Google Tag ในส่วนของ Configurations ให้ไปอยู่ในตัวแปร Google Tag: Configuration Settings ที่สร้างขึ้นมาใหม่แทน
ให้เลือก Trigger เป็น Initialization – All Pages หรือ Consent Initialization – All Pages เพื่อที่ตัวแปรในส่วนของ Configuration Settings Variables จะได้พร้อมใช้สำหรับ GA4 Event Tags ตัวอื่นๆ ที่ตามมาทีหลัง
คุณอาจจะเข้าไปสร้างตัวแปร Google Tag: Event Settings เพิ่มเติม สำหรับพวก Parameters ที่คุณต้องใช้ซ้ำๆ กับ Events ต่างๆ
เสร็จแล้วตรวจสอบการทำงานของ Google Tag ผ่านทาง https://tagassistant.google.com/ ว่าถูกต้อง ก็เป็นอันเรียบร้อย
สรุปเรื่องของ Google Tag ตัวใหม่ใน GTM
การทำงานของ Google Tag ที่อยู่ใน GTM จะทำงานแบบเดิมกับที่เคยตั้งค่าเอาไว้ใน GA4 Configurations Tag ตัวเก่า เพียงแต่รูปแบบในการตั้งค่าต่างๆ จะเปลี่ยนไป
โดยตัวแปรใหม่ 2 ตัวที่เรียกว่า Google Tag: Configuration Settings กับ Google Tag: Event Settings จะช่วยให้คุณสามารถนำไปใช้ซ้ำได้ โดยไม่จำเป็นต้องไประบุใหม่ทุกครั้งใน GA4: Event Tags ต่างๆ เหมือนแต่ก่อน ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาให้กับคุณได้ครับ
หากว่าคุณมีคำถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Google Tag ตัวใหม่นี้ สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลยครับ
อรรถทวี (Google Tag Now) เจริญวัฒนวิญญู
Konvertive – Delivering Your Business Conversions with Digital Marketing