เมื่อผมถูกน้อง ๆ ถามว่า "ทำอย่างไรถึงจะได้ใบรับรองจาก Google Ads Certification?"
หลังจากที่ผมสอนจบ ก็จะมีน้อง ๆ บางคนที่สนใจ ก็จะเดินมาคุยกับผมว่า “พวกเค้าเคยได้ยินในเรื่องของการสอบเพื่อรับใบ Certificate จากทาง Google โดยตรง“
ตัวผมเองก็ได้แต่แอบอมยิ้มอยู่ในใจให้กับน้อง ๆ ที่ถามมาครับ แล้วก็บอกเค้าไปแบบคร่าว ๆ ว่า “มีครับ เป็นใบ Cert. จากทาง Google โดยตรงเลยครับ” แต่ด้วยความที่น้อง ๆ ต้องรีบทำการบ้านในกลุ่มกันต่อ ก็เลยไม่ได้คุยกับน้อง ๆ แบบละเอียดซะทีเดียว
ก็เลยเป็นที่มาของโพสนี้ครับ โพสที่ว่าด้วยเรื่องของ “ข้อแนะนำในการสมัครสอบ Google Ads Certification” (ผมขอเรียกย่อ ๆ ว่า GAC ละกันครับ)
เป็นโพสสำหรับน้อง ๆ ที่กำลังอยากจะไปลองสอบดู เพื่อที่จะได้รับใบ GAC จากทาง Google แล้วก็สามารถเอาไปใช้ประดับบารมี (หรือ Resume สมัครงาน) ให้กับน้อง ๆ ได้ต่อไปครับ 😉
ซึ่งจริง ๆ แล้ว การที่มีใบ GAC ไม่ใช่แค่เอาไว้ประดับบารมีหรอกครับ แต่มันก็มีข้อดีอีกหลาย ๆ อย่างสำหรับคนที่มีใบ GAC ที่ว่านี้
ว่าแต่จะมีข้อดีอะไรบ้างนั้น…
มาครับผมจะเล่าให้ฟัง (ได้กลิ่นอายของสไตล์การโพสจากทางเพจของลงทุนแมนกันบ้างมั๊ยครับ 😉
ทำไมถึงต้องมี Google Ads Certification?
จริง ๆ แล้วผมต้องบอกว่า “ถึงแม้ว่าคุณจะมีหรือไม่มีใบ GAC ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรนักหรอกครับ” (อ้าว! แล้วจะเสียเวลามาเขียนโพสนี้ทำไมวะครับ?)
เอาจริง ๆ เลยนะ ผมว่าคนที่ทำโฆษณาที่ Google ส่วนใหญ่ในตอนนี้นั้น ส่วนใหญ่พวกเค้าก็ไม่มีกันหรอกครับไอ้ใบ GAC นี้อ่ะ (ฮาๆๆ)
แต่เดี๋ยวก่อนครับ!
หากว่าน้อง ๆ คนไหนที่กำลังสนใจอยากจะทำงานในแวดวงของ “เอเจนซี่การตลาดออนไลน์” แบบผม (Konvertive กับพันธกิจแบบโกอินเตอร์เท่ห์ ๆ ที่ว่า “Delivering Your Business Conversions With Digital Marketing!“)
กับการที่มีน้อง ๆ สักคน เข้ามาสมัครงาน แล้วบอกว่ามีใบ GAC ในส่วนของการทำโฆษณา Google แนบมาพร้อมกับ Resume มาด้วยนั้น ก็จะทำให้พวกเราหูผึ่ง แล้วก็หันไปให้ความสนใจให้กับน้องคนนั้นเพิ่มมากขึ้นเป็นพิเศษได้เลยครับ
เพราะว่าอย่างน้อยเราก็รู้ได้ว่า น้องคนนั้น “มีความสนใจ” ในเรื่องของ “การทำโฆษณาบน Google” อยู่นั่นเอง
นอกจากนี้ส่วนตัวผมยังเชื่อว่า คนที่ให้ “ความสนใจ” กับเรื่องอะไร ก็มักจะเป็นคนที่ให้ “ความสำคัญ” กับเรื่องนั้น ๆ ครับ
พูดง่าย ๆ ก็คือคนที่มี GAC ก็น่าจะมีความสนใจในเรื่องของ Google Ads มากกว่าคนที่ไม่มีแหละ จริงมั๊ยครับ?
ข้อดีของการมี Google Ads Certification
ผมคิดว่าน้อง ๆ ที่ผ่านการสอบจนได้รับ GAC ในความคิดของผมนั้น ก็จะสามารถช่วยให้น้อง ๆ คนนั้น…
- เพิ่ม “ความน่าเชื่อถือ” ให้กับตัวเองได้ในระดับนึง และก็เพิ่ม “ความได้เปรียบ” มากกว่าคนที่ไม่มี GAC
- เป็นเหมือนกับ “อุปกรณ์เสริม” ที่ช่วยเพิ่มคุณค่าของ Resume ของคุณให้ดูดี มีราคา มีคุณค่าสูงขึ้นได้
- มีหลักฐานเป็น “ใบ Certificate” ที่คุณสามารถพิมพ์เอาไปโชว์ยืนยันให้กับคนอื่นเห็นได้ หรือจะคลิกลิงค์เปิดให้ดูผ่านออนไลน์ก็ได้
- GAC เป็นเหมือนกับ “ใบรับรอง” ที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กับการรองรับมาตรฐานของคนที่ทำโฆษณาบน Google ได้
- สามารถช่วยให้อาชีพของคุณ “ก้าวหน้า” ขึ้นได้อย่างไม่ยากเลยครับ เพราะว่าคุณสามารถเอาไปใช้เป็นส่วนประกอบในการขอขึ้นเงินเดือนให้กับตัวคุณได้ แล้วหัวหน้าของคุณจะมองว่าคุณเป็น “ผู้เชี่ยวชาญ” คนนึงในการทำโฆษณา Google นี้
- *หากว่าคุณทำงานอยู่ในบริษัทที่เป็นเอเจนซี่การตลาดออนไลน์ การมีใบ GAC นั้นถือเป็นข้อกำหนด (ข้อบังคับ) จากทาง Google Partners เลยครับ ที่ระบุไว้ว่าจะต้องมีคนสอบผ่าน GAC นี้อย่างน้อยกี่คน? เพื่อที่จะได้คงสถานะของการเป็น Google Partners เอาไว้ (ซึ่งจะมี Badge บอกว่าเอเจนซี่เจ้านั้นยังเป็น Google Partners อยู่)
- ฯลฯ
ซึ่งผมต้องบอกว่าน้อง ๆ คนไหนที่สอบผ่านจนได้รับใบ GAC มาแล้วนั้น ต้องถือว่าเป็นการลงทุนที่ง่าย ๆ คุ้มค่ามาก ๆ เลยครับ แถมที่สำคัญสอบได้ฟรีอีกต่างหาก! (คือถ้าเป็นสมัยก่อนคุณต้องเสียเงินค่าสอบ GAC นี้ด้วยครับ)
อย่างที่ผมเพิ่งบอกกับคุณไปครับว่า…
อย่างน้อยการที่คุณมี GAC มันก็ทำให้คุณดูดีกว่าผู้สมัครงานคนอื่น ๆ ที่ไม่มีแหละ (วะ) จริงมั๊ยครับ? (ในกรณีที่คุณมีคุณสมบัติด้านอื่น ๆ เหมือนกับผู้สมัครคนอื่น)
การมี GAC จะยิ่งเหมาะมาก ๆ เลยนะครับ สำหรับน้อง ๆ ที่กำลังจะเริ่มเข้าสู่โลกแห่งการทำงาน หรือกำลังมองหางานในแวดวงของการตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะในเรื่องของการโฆษณาอย่าง Google Ads นี้ครับ (ว่าแล้วผมก็ต้องขอพูดว่า ยินดีต้อนรับน้อง ๆ เข้าสู่วงการการตลาดออนไลน์ไว้ ณ ตอนนี้เลยนะครับผม มีอะไรสนุก ๆ ใหม่ ๆ ให้น้อง ๆ ได้ทำกันอีกเยอะเลยครับ 🙂
ทีนี้มาดูกันครับ ว่า GAC คืออะไร? มีกี่ประเภท? อะไรบ้าง?
Google Ads Certification (GAC) คืออะไร? มีกี่ประเภท?
GAC ก็คือใบรับรองที่ทาง Google ออกให้สำหรับคนที่ผ่านการทดสอบโดยช่องทางออนไลน์ครับ หน้าตาของ GAC ก็จะมีรูปร่างหน้าตาตามรูปด้านล่างนี้ครับ
หมายเหตุ: อารมณ์ก็จะคล้าย ๆ กับคนที่เคยสอบ “Facebook Blueprint Certification” ของเฮียมาร์คเค้าครับ
ซึ่งในปัจจุบันนี้ GAC จะแบ่งออกเป็น 6 ประเภทดังนี้ครับ
- Google Ads Search Certification
- Google Ads Display Certification
- Google Ads Video Certification
- Google Ads App Certification
- Google Ads Measurement Certification
- Shopping Ads Certification
ทีนี้มาดูรายละเอียด GAC ของแต่ละประเภทกันครับ
1. Google Ads Search Certification
จะเน้นในส่วนของการทำ “โฆษณา Google Search แบบค้นหา” ที่พวกเราคุ้นเคยกันดี แล้วก็มีพูดถึงวิธีการปรับปรุงผลลัพธ์ของแคมเปญโฆษณาของคุณให้ดีขึ้น
คนที่ผ่านการสอบ Google Ads Search Certification นี้ ก็จะได้รู้ในเรื่องของ Smart Bidding, เรื่องของการเลือกกลุ่มเป้าหมาย (Audience) ที่จะช่วยตอบโจทย์ในการทำแคมเปญโฆษณาแบบค้นหา ให้ได้ผลตรงกับเป้าหมายที่คุณเลือกไว้
แล้ว Google Ads Search Certification มีหัวข้ออะไรบ้าง?
ส่วนหลักเกณฑ์ในการผ่าน Google Ads Search Certification จะต้องได้มากกว่า 80% จากคำถามทั้งหมด 50 ข้อครับ
ระยะเวลาในการสอบไม่เกิน 75 นาที
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> คลิกที่ลิงค์นี่ได้เลยครับ
2. Google Ads Display Certification
ในส่วนของ Google Ads Display Certification ก็จะมีเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการสร้างแคมเปญ “โฆษณาแบบดิสเพลย์ (รูปภาพ)” ให้ได้ตรงตามเป้าหมายของแคมเปญการตลาดที่ตั้งเอาไว้
Google Ads Display Certification มีหัวข้ออะไรบ้าง?
ส่วนหลักเกณฑ์ในการผ่าน Google Ads Display Certification จะต้องได้มากกว่า 80% จากคำถามทั้งหมด 49 ข้อครับ
ให้เวลาในการสอบไม่เกิน 75 นาที
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> คลิกที่นี่
3. Google Ads Video Certification
สำหรับคนที่สอบ Google Ads Video Certification ก็จะได้เรียนรู้ในส่วนของการนำคลิปวีดีโอต่าง ๆ ของคุณที่อยู่บน YouTube มาใช้ในการโฆษณาให้กับธุรกิจของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการสร้างแบนด์ หรือจะใช้เป็นโฆษณาเพื่อช่วยในเรื่องของการพิจารณาและการตัดสินใจของกลุ่มเป้าหมาย
ใน Google Ads Video Certification มีหัวข้ออะไรบ้าง?
ส่วนหลักเกณฑ์ในการผ่าน Google Ads Video Certification จะต้องได้มากกว่า 80% จากคำถามทั้งหมด 50 ข้อครับ
เวลาในการสอบประมาณไม่เกิน 75 นาที
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> คลิกที่นี่
4. Google Ads App Certification
หากว่าคุณสนใจเกี่ยวกับการโปรโมทแอปฯ บนมือถือให้ประสบความสำเร็จ คุณสามารถที่จะเรียนรู้และก็สอบ Google Ads App Certification ตัวนี้ได้เลย
มีหัวข้ออะไรบ้างใน Google Ads App Certification
ส่วนหลักเกณฑ์ในการผ่าน Google Ads App Certification จะต้องได้มากกว่า 70% จากคำถามทั้งหมด 49 ข้อครับ
เวลาในการสอบประมาณไม่เกิน 75 นาที
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> คลิกที่นี่
5. Google Ads Measurement Certification
สำหรับ Google Ads Measurement Certification จะช่วยให้คุณเตรียมตัวในส่วนของการวัดผลประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณาต่าง ๆ ของคุณ
คุณจะสามารถที่จะนำเอาตัวเลขของแคมเปญโฆษณามาวิเคราะห์เป็นข้อมูลเชิงลึกในการนำไปใช้พัฒนาประสิทธิภาพแคมเปญโฆษณาของคุณ เพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีต่อธุรกิจของคุณต่อไป
มีหัวข้ออะไรบ้างใน Google Ads Measurement Certification
ส่วนหลักเกณฑ์ในการผ่าน Google Ads Measurement Certification จะต้องได้มากกว่า 80% จากคำถามทั้งหมด 50 ข้อครับ
เวลาในการสอบประมาณไม่เกิน 75 นาที
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> คลิกที่นี่
6. Shopping Ads Certification
หากว่าธุรกิจของคุณเป็นอีคอมเมิร์ซ คุณไม่ควรพลาดในการสอบ Shopping Ads Certification นี้ครับ
มีหัวข้ออะไรบ้างใน Shopping Ads Certification
ส่วนหลักเกณฑ์ในการผ่าน Shopping Ads Certification จะต้องได้มากกว่า 80% จากคำถามทั้งหมด 45 ข้อ
รายละเอียดเพิ่มเติม >>> คลิกที่นี่
เวลาในการสอบประมาณไม่เกิน 75 นาที
หมายเหตุ: ระหว่างสอบหากว่าคุณกดเลือกคำตอบไปแล้ว ก็จะไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ไขได้นะครับ (ตอบแล้ว ตอบเลยครับ)
ทำยังไงถึงจะได้ Google Ads Certification มาประดับบารมี
แล้วมีคำแนะนำหรือว่าควรเตรียมตัวอย่างไรบ้างก่อนสอบ GAC?
เบื้องต้นผมคิดว่าสำหรับคนไหนที่เคยทำโฆษณา Google มาก่อนหรือว่าพอมีพื้นฐานมาอยู่บ้างแล้ว ผมคิดว่าการที่ได้เข้าไปเรียนรู้เพิ่มเติมผ่านทาง Skillshop ที่ทาง Google เตรียมไว้ให้ก่อน ก็สามารถช่วยทบทวนในสิ่งที่คุณรู้มาก่อนหน้านี้ได้
อีกทั้งในระหว่างที่เรียน Skillshop เค้าก็จะมีตัวอย่างของข้อสอบมาให้คุณได้ลองทำดูด้วยครับ แล้วคุณก็จำ ๆ ไว้บ้างครับ ว่าคำถามเป็นแนวไหน (คำถามส่วนใหญ่ก็มาจากเนื้อหาที่คุณเรียนนั่นแหละครับ)
หากว่าคุณพร้อมแล้ว! คลิกที่นี่เพื่อเข้าสู่ >>> Skillshop (รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน)
ส่วนน้อง ๆ มือใหม่ที่ไม่เคยทำโฆษณามาก่อนเลย ผมคิดว่าคอร์สของ Skillshop เป็นอะไรที่คุณต้องไม่พลาดด้วยประการทั้งปวงเลยครับ
เมื่อน้อง ๆ ได้เรียนรู้ถึงพื้นฐานในการทำโฆษณา Google ได้บ้างแล้ว ขั้นตอนต่อไปผมก็อยากให้น้อง ๆ ได้ลงมือสร้างแคมเปญจริง ที่ใช้โปรโมทธุรกิจจริงเลยครับ
เพื่อที่น้อง ๆ จะได้เรียนรู้ด้วยตัวเองว่า…
สิ่งที่ตัวเองเรียนรู้มากับของจริงที่เกิดขึ้นนั้น มันเหมือนกันหรือต่างกันตรงไหนบ้าง?
มีจุดไหนที่คุณเข้าใจ (จากหนังสือ) แต่ว่ามันไม่เหมือนกับของจริง (จากการลงมือทำ) ที่เกิดขึ้นบ้าง?
แต่ก็ไม่ต้องเครียดมากเกินไปครับ ผมเชื่อว่าอย่างน้อยน้อง ๆ ก็กำลังเดินเข้าสู่ทิศทางที่ดีละครับ
เพราะว่าการเรียนรู้ที่เกิดขึ้นระหว่างลงมือทำนั้น มันสามารถที่จะสอนอะไรให้กับน้อง ๆ ได้มากกว่าการเรียนรู้จากหนังสือหรือว่าการนั่งดูคลิปวีดีโอเพียงอย่างเดียว (จนถึงทุกวันนี้ ผมก็ยังไม่เคยรู้จักใครที่ว่ายน้ำเป็น จากการอ่านหนังสืออย่างเดียว)
หมายเหตุ: แต่หากว่าใครที่ชอบ “วิธีการเรียนรู้แบบ Netflix” 😉 ก็สามารถดูได้จากคลิปต่าง ๆ ที่ทาง Google เตรียมไว้ให้ที่ >>> Playlist นี้
สรุปคือ ให้เรียนรู้จากแหล่งข้อมูลที่ทาง Google ได้เตรียมไว้ให้ที่ Skillshop แล้วก็ลงมือทำดู (On-The-Job Training) ครับ คือเรียนรู้จริง เจ็บจริง (แล้วก็จ่ายเงินจริงครับ ฮาๆๆ)
แล้วพอถึงเวลาสอบจริง ก็ลุยเลยครับ ไม่ต้องไปกังวล (เพราะว่าคุณไม่ได้ทำข้อสอบคัดเลือกเข้าจุฬาหรือว่าธรรมศาสตร์ซักกะหน่อย)
แต่ถ้าใครที่ยังสอบไม่ผ่าน ก็ไม่ต้องเสียใจร้องไห้ฟูมฟายไปครับ
เพราะว่าคุณสามารถที่จะกลับมา “สอบซ้ำ” ได้อีกเรื่อย ๆ เพียงแค่คุณไปพัก นอนหลับให้สนิท ๆ ซักคืนนึง รอหลังจากสอบเสร็จไปแล้ว 24 ชม. แล้วก็เข้าไปสอบใหม่ครับ
ส่วนน้อง ๆ คนไหนที่สอบผ่าน ขอแสดงความยินดีด้วยครับ คุณกำลังจะได้ใบ Certificate ที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับคุณได้ (เป็นหลักแสน หลักล้านได้เลยนะครับ สำหรับคนที่เอาไปต่อยอดแล้วยึดอาชีพของคนที่ทำโฆษณา Google นี้อย่างจริงจัง)
อ้อ! GAC มีระยะเวลาในการใช้งานได้ 1 ปี หลังจากนั้นต้องคุณต้องกลับมาสอบใหม่ (คิดซะว่าคุณกำลังไปสอบต่อใบขับขี่ในปีต่อ ๆ ไปก็แล้วกันครับ)
สุดท้ายนี้ หากว่าน้อง ๆ คนไหนสอบผ่านแล้ว ก็อย่าลืมแวะเอาใบ GAC ของคุณมาโชว์ให้กับเพื่อน ๆ เพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนอื่น ๆ กันต่อไปด้วยนะครับ 🙂
ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ 🙂
ขอให้น้อง ๆ และทุกคนสอบผ่าน GAC นี้กันได้ทุกคนเลยครับ
อรรถทวี (Google Ads Search Certification) เจริญวัฒนวิญญู
Konvertive – Delivering Your Business Conversions with Digital Marketing