สำหรับคนที่ทำโฆษณา Facebook โดยเฉพาะแบบคอนเวอร์ชั่น จะมีอยู่เครื่องมือนึงที่จะช่วยให้คุณรู้ได้ว่า โฆษณาของคุณมันกำลัง "ทำเงิน" ให้กับคุณ หรือว่ากำลัง "เผาเงิน" ของคุณอยู่
เครื่องมือที่ว่าก็คือ “Pixel” ที่พวกเราคุ้นเคยกันดี ที่เป็น Code ที่คุณจะต้องนำมาติดเอาไว้ที่ทุกหน้าเว็บไซต์ของคุณ
แต่ด้วยความที่ตอนนี้ การนำ Pixel มาใช้เพื่อวัดผลนั้น เริ่มมีประสิทธิภาพลดน้อยลงไป
อย่าง Data ที่เคยถูกเก็บได้อย่างครบถ้วนก่อนหน้านี้ ก็เริ่มลดหายไปโดยเฉพาะฝั่งของคนที่ใช้ Apple iOS 14+
แถมบางบราวเซอร์ก็ไม่อนุญาตให้นำข้อมูลที่อยู่ในคุกกี้ไปใช้ประโยชน์ได้
เรื่องของ “นโยบายความเป็นส่วนตัว” ที่ผู้ใช้งานเลือกได้ว่าจะ “ยินยอมหรือไม่ยินยอม” ให้นำ Data ไปใช้ประโยชน์
อีกทั้งบางคนก็ลงโปรแกรมบล็อกพวกโฆษณา ที่ปิดกั้นการเก็บข้อมูลต่างๆ
หรืออย่างเว็บไหนที่โหลดช้าๆ Pixel ก็ไม่ทำงานมันดื้อๆ เลยซะงั๊น!
จะเห็นได้ว่า การนำ Pixel มาใช้งานนั้น มันเริ่มจะใช้ “ไม่ได้ผล” ซะแล้ว!
Facebook ก็เลยต้องหาวิธีใหม่ๆ เพื่อมาใช้แก้ปัญหานี้ (ในฝั่งของ Google ก็มีเหมือนกันครับ เช่น Google Enhanced Conversion)
ซึ่งวิธีที่ว่านี้ก็คือ “Facebook Conversions API” หรือเรียกสั้นๆ ว่า CAPI
แต่ Facebook Conversions API ไม่ได้มีดีแค่ในเรื่องของการเก็บข้อมูล (Data Collection) เท่านั้นนะครับ
คุณยังสามารถที่จะใช้ประโยชน์จากฟีเจอร์อื่นๆ ของ Facebook Conversions API นี้ได้อีก
ว่าแต่จะมีฟีเจอร์อะไรเจ๋งๆ ใน Conversions API นี้บ้างนั้น?
ถ้าคุณพร้อมแล้ว… ก็มาลุยไปด้วยกันเลยครับ 🙂
Table of Contents
ประโยชน์ของ Facebook Pixel คืออะไร?
ก่อนที่ผมจะบอกว่า Facebook Conversions API คืออะไร? ผมอยากให้คุณได้รู้ประโยชน์ของ Facebook Pixel (ตอนนี้ต้องเรียกว่า Meta Pixel :-)) กันก่อนครับ
คือจริงๆ แล้ว Pixel ไม่ได้มีประโยชน์ในเรื่องของการนำเอามาใช้เก็บข้อมูลเพื่อวัดผลแคมเปญโฆษณา Facebook ของคุณได้เพียงอย่างเดียวนะครับ
แต่ Pixel มันยังทำหน้าที่อื่นๆ ได้อีก เช่น
- ใช้เก็บข้อมูลที่เป็น Facebook Events ต่างๆ โดยเฉพาะ Events สำคัญๆ ที่เรียกว่า Conversions แล้วก็ส่งกลับไปที่ Machine Learning ของ Facebook
- แล้ว Machine Learning ของ Facebook ก็จะนำเอา Data ที่ถูกส่งไปให้ นำไปใช้ในการ Optimize แคมเปญโฆษณาต่อ
- ทำให้ Facebook รู้ได้ว่ากลุ่มเป้าหมายแบบไหน? ที่ทำให้เกิด Conversions
- ใช้สร้างกลุ่มเป้าหมาย เช่น Custom Audiences และก็ Lookalike Audiences เพื่อให้ตรงกลุ่มมากยิ่งขึ้น
- เมื่อมีข้อมูลที่เกี่ยวกับ Convesions มากขึ้น เช่น มีลูกค้ามากขึ้น มียอดขายมากขึ้น ก็จะทำให้ “ต้นทุนต่อคอนเวอร์ชั่น” ถูกลง
- เมื่อโฆษณาของคุณได้ผลมากยิ่งขึ้น คุณก็จะเอาเงินไปลงทุนในโฆษณามากยิ่งขึ้น
- Facebook ก็จะได้เงินจากคุณเพิ่มมากขึ้นในที่สุดนั่นเองครับ (จุดสำคัญมันอยู่ตรงข้อนี้นั่นเองครับ ฮาๆๆ)
OK จะเห็นได้ว่าข้อดีต่างๆ ด้านบนจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อ Pixel ได้ทำการส่งเก็บข้อมูลต่างๆ แล้วก็ส่งกลับไปที่ Facebook ได้อย่างถูกต้องและก็ครบถ้วน!
แต่อย่างที่ผมเขียนไว้ด้านบนครับว่า ปัญหาคือข้อมูลต่างๆ ที่เคยถูกส่งไปผ่านทาง Pixel นั้น มันเริ่มจะไม่ครบถ้วนเหมือนแต่ก่อน (อย่าง Aggregated Event Measurement ที่จำกัดการส่งข้อมูลเพียง 8 Events!)
เมื่อข้อมูลมันไม่ครบถ้วน ก็เลยทำให้ความถูกต้องแม่นยำในการวัดผลหายไปครับ
ช่วงหลังๆ นี้ ทาง Facebook ก็จะแนะนำให้คนทำโฆษณาอย่างเราๆ หันมาใช้ของเล่นใหม่ที่เรียกว่า Conversions API นี้กันครับ
Facebook Conversions API คืออะไร?
เอาจริงๆ ต้องบอกว่า ข้อดีของ Facebook Conversions API ก็คือแบบเดียวกับที่ Pixel มีนั่นแหละครับ
หลักๆ ก็คือการส่งข้อมูลกลับไปที่ Machine Learning ของทาง Facebook เพื่อที่จะได้นำข้อมูลต่างๆ ไปใช้ในการ Optimize แคมเปญโฆษณาของคุณให้ดีขึ้น
เพียงแต่ว่า “วิธีการในการส่งข้อมูล” ระหว่าง Pixel กับ Conversion API เท่านั้นครับที่แตกต่างกัน!
คือข้อมูลต่างๆ ที่ถูกส่งไปให้ Facebook ผ่านทาง Pixel ที่รันผ่านทางบราวเซอร์นั้น ก็จะถูกส่งไปให้ Facebook ผ่านทาง Server โดยตรงด้วย Conversions API แทน
ข้อดีของการใช้ Facebook Conversions API
อย่างเช่น…
- ช่วยลดปัญหาในเรื่องของการส่งข้อมูลที่ไม่ครบถ้วนจากการใช้ Pixel
- ทำให้การรายงานผลของแคมเปญโฆษณามีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น
- สามารถใช้วัดผล Conversions ที่เกิดขึ้นทั้งทาง Online และ Offline ได้
- ทำให้เห็นภาพ “เส้นทางการซื้อของลูกค้า” ได้อย่างครบถ้วน
- ช่วยเพิ่มความเร็วของเว็บไซต์ จากการไม่ต้องติดตั้ง Pixel ไว้ที่หน้าเว็บไซต์
อีกข้อนึงที่ผมชอบมากก็คือ ถ้าคุณใช้ Server-Side Tagging ผ่านทาง GTM ในส่วนของ Google Analytics 4 คุณสามารถที่จะทำการ Map Events ของ GA4 ให้วิ่งไปที่ Facebook Events ได้โดยอัตโนมัติเลยครับ ประหยัดเวลามากๆ ครับ
จะเห็นได้ว่า เมื่อคุณทำการส่งข้อมูลด้วยการใช้ Facebook Conversions API นี้ ก็จะทำให้ข้อมูลที่ส่งไปให้ Facebook นั้น มีความถูกต้องและครบถ้วนมากขึ้นนั่นเอง
ทีนี้เมื่อข้อมูลที่ถูกส่งไปนั้นถูกต้อง ครบถ้วน มีคุณภาพมากขึ้น ก็จะช่วยทำให้…
- โฆษณาของคุณมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
- ยิงไปตรงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น
- ลดต้นทุนค่าโฆษณาได้ถูกลง
- ได้ผลตอบแทนจากเงินที่ยิงโฆษณามากขึ้น
ถึงตรงนี้แล้ว คุณอยากจะเริ่มใช้งาน Facebook Conversions API นี้บ้างแล้วยังครับ?
แต่ผมขอฝากไว้อีกนิดเดียวครับ คือถึงแม้ว่า Facebook จะแนะนำให้เราเริ่มใช้งาน Conversions API กัน แต่ไม่ได้หมายความว่า Pixel จะไม่มีประโยชน์นะครับ
เพราะว่า Facebook เค้าแนะนำว่าให้เราใช้งานทั้ง Pixel และก็ Conversions API ไปพร้อมๆ กันเลยครับ (อารมณ์ประมาณว่า “สองหัวดีกว่าหัวเดียว” ครับ)
อ้อแล้วคุณก็ไม่ต้องกลัวว่า Data ที่ถูกส่งไปให้ Facebook ทั้งทาง Pixel และ Conversion API มันจะซ้ำซ้อนกันหรือเปล่า? เพราะว่า Facebook เค้าก็จะมีกระบวนการที่เรียกว่า Deduplication มาไว้แก้ปัญหานี้ให้ด้วยครับ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ลิงค์นี้ครับ
เริ่มต้นใช้งาน Facebook Conversions API
1. Conversions API Gateway
วิธีการนี้ทาง Facebook เค้าบอกว่าง่ายแล้วก็เร็วด้วยครับ อีกทั้งค่าใช้จ่ายในส่วนของ Server ก็ไม่แพงมากครับ
รายละเอียดเกี่ยวกับการ Setup Conversions API Gateway ดูได้จากลิงค์นี้ครับ
2. Manual
วิธีการนี้จะค่อนข้างซับซ้อนหน่อยครับ ซึ่งทาง Facebook เค้าก็จะมีขั้นตอนบอกให้เราทำตามได้ครับ
สำหรับคนที่ใช้งาน GTM คุณสามารถใช้ Facebook Conversions API ผ่านทาง Server-Side Tagging ได้ด้วยครับ
3. Partner Integration
อย่างใครที่ใช้ WordPress อยู่ก็ลองเล่นดูครับ ทาง Facebook ก็จะมีขั้นตอนให้เราทำตามด้วยเหมือนกัน
สรุปในเรื่องของ Facebook Conversions API
ต้องบอกว่าการนำ Conversions API สามารถช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้ Pixel เพียงอย่างเดียวได้ ทำให้ข้อมูลที่ถูกส่งกลับไปยัง Machine Learning ของ Facebook มีความถูกต้องและครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
ซึ่งผมดูแล้ว อนาคตในเรื่องของการเก็บข้อมูล (Data Collection) ผ่านทาง Facebook Conversions API หรือ พวก Server-Side Tagging ต่างๆ ก็จะได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่ามีข้อดีหลายๆ อย่างตามที่ผมเขียนไว้ด้านบนนี้ครับ
อย่างที่ผมย้ำเสมอๆ ครับว่า ยิ่งพวกเราคนทำโฆษณาออนไลน์ที่อยู่ในยุคที่ต้องพึ่งพวก Machine Learning และ AI ในการช่วยปรับปรุงแคมเปญโฆษณาของเรามากขึ้นทุกๆ วัน
เรื่องของข้อมูลหรือ Data ที่เราส่งกลับไปให้กับ Machine Learning เหล่านั้น ก็จะยิ่งมีความสำคัญมากๆ เลยครับ!
[เรียนรู้เรื่องของ Data Collection ผ่านทาง GTM ได้ฟรีที่ Webinar นี้]
เพราะว่า Machine Learning จะเรียนรู้และฉลาดมากขึ้นเท่าไหร่ ก็ขึ้นอยู่กับ “จำนวนและคุณภาพของข้อมูล” ที่เราส่งไปให้เค้าครับ
ยังไงหากว่าคุณลองใช้งาน Conversions API แล้วได้ผลเป็นยังไงบ้าง? โฆษณาทำงานได้ดีขึ้นมั๊ย? (อย่างที่ Facebook เค้าว่าไว้!) ว่างๆ ก็แวะมาให้ Comment ให้กับเพื่อนๆ คนอื่นๆ ได้รู้กันด้วยนะครับผม
หรือหากว่าคุณอยากรู้ว่าทางทีมผมช่วยลูกค้าต่างๆ ของ Konvertive ยังไง? แล้วจะนำ Facebook Conversions API มาช่วยธุรกิจของคุณอย่างไรได้บ้างนั้น? ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้เลยนะครับ
แล้วเจอกันใหม่โพสหน้าครับ
ขอบคุณมากครับ 🙂
อรรถทวี (ป้อนข้อมูลให้ Facebook ด้วย Conversions API) เจริญวัฒนวิญญู
Konvertive – Delivering Your Business Conversions with Performance Marketing
